ข้อควรระวัง

1. วัคซีนป้องกันโรคโคโรนาของบริษัท แอสตร้าเซนเนก้า มีข้อห้ามใช้ในผู้ที่แพ้ตัวยาหรือ ส่วนประกอบอื่นในตํารับซึ่งได้แก่ L-Histidine, L-Histidline hydrochloride monohydrate, Magnesium chloride hexahydate, Polysorbate 80, Ethanol, Sucrose, Sodium chloride, Disodium edetate dihydrate
2. ควรหลีกเลี่ยงการฉีดวัคซีนออกไป หากผู้ที่จะรับวัคซีนกําลังมีไข้สูง (ไม่จําเป็นต้องเลื่อนการฉีดออกไปหากมี อาการของการติดเชื้อเพียงเล็กน้อย และหรือมีไข้ต่ำๆ)
3. ควรฉีดวัคซีนด้วยความระมัดระวังในผู้ที่มีภาวะเกล็ดเลือดต่ำ และความผิดปกติในการแข็งตัวของเกล็ดเลือด หรือผู้ที่ได้รับการรักษาด้วยยาต้านการแข็งตัวของเลือด หรือยาป้องกันการเกาะตัวของเกล็ดเลือด เนื่องจากอาจเกิดภาวะเลือดออกหรือมีจ้ำเลือดเกิดขึ้นหลังการฉีด
4. ในปัจจุบันยังไม่มีข้อมูลด้านประสิทธิภาพ และความปลอดภัยของวัคซีนป้องกันโรคโคโรนาของบริษัท แอสตร้าเซเนก้า ในเด็กและวัยรุ่นที่อายุต่ำกว่า 18 ปี และข้อมูลด้านประสิทธิภาพความปลอดภัย ของวัคซีนป้องกันโรคโคโรนาของบริษัท แอสตร้าเซนเนก้า ในผู้สูงอายุตั้งแต่ 65 ปีขึ้นไป 

5. การพิจารณาให้วัคซีนสตรีมีครรภ์ และสตรีระหว่างให้นมบุตร ควรพิจารณาให้วัคซีนเมื่อประโยชน์ที่ได้รับมีมากกว่าความเสี่ยงที่อาจทําให้เกิดขึ้นต่อมารดา และทารก เนื่องจากยังมีประสบการณ์ที่จํากัดสําหรับการใช้วัคซีนป้องกันโรคโคโรนาของบริษัท แอสตร้าเซนเนก้า ในสตรีมีครรภ์ และยังไม่ทราบว่าวัคซีนป้องกันโรคโคโรนาของบริษัท แอสตร้าเซนเนก้า สามารถถูกขับออกทางน้ำนมได้หรือไม่
6. ควรมีการเตรียมความพร้อมตลอดเวลาสําหรับการดูแล และให้การรักษาที่เหมาะสมอย่างทันท่วงทีในกรณีที่เกิดอาการแพ้อย่างรุนแรงหลังฉีดวัคซีน และควรสังเกตอาการผิดปกติของผู้รับวัคซีนหลังการฉีดอยู่บ่อยครั้ง อาการผิดปกติที่พบได้บ่อยหลังการฉีดวัคซีน